อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 (5) และมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 31 มาตรา 33 มาตรา 43 และมาตรา 64 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ก.พ. โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีจึงออกกฎ ก.พ. ไว้ ดังต่อไปนี้
กฎ ก.พ. นี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป
ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (ซ) และ (ฌ) ของข้อ 8 (9) แห่ง กฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552
“(ซ) ลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร เฉพาะวันลาที่มีสิทธิได้รับเงินเดือนระหว่างลาตามกฎหมาย
(ฌ) ลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ”
ให้ยกเลิกความในข้อ 11 แห่ง กฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ 11 ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดได้รับอนุญาตให้ลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ หรือถูกสั่งให้ไปทำการใดซึ่งให้นับเวลาระหว่างนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ หรือได้รับอนุญาตให้ลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพเนื่องจากได้รับอันตรายหรือการป่วยเจ็บเพราะเหตุปฏิบัติราชการในหน้าที่หรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่ จนทำให้ตกเป็นผู้ทุพพลภาพหรือพิการ เมื่อข้าราชการพลเรือนสามัญผู้นั้นกลับมาปฏิบัติราชการ ให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจสั่งเลื่อนเงินเดือนพิจารณาสั่งให้มีการคำนวณเพื่อหาอัตราเงินเดือนที่ข้าราชการผู้นั้นจะได้รับเมื่อกลับมาปฏิบัติราชการ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ก.พ. กำหนด”
เหตุผลในการประกาศใช้กฎ ก.พ. ฉบับนี้ คือ โดยที่ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 ได้กำหนดประเภทการลาขึ้นใหม่ 2 ประเภท คือ การลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร และการลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ จึงเห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การเลื่อนเงินเดือนให้ครอบคลุมถึงข้าราชการที่ใช้สิทธิการลาดังกล่าว ให้ได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ก.พ. กำหนด จึงจำเป็นต้องออกกฎ ก.พ. นี้