ที่ นร 1006/ว 11
สำนักงาน ก.พ.
ถนนพิษณุโลก กทม. 10300
16 มีนาคม 2553
เรื่อง การบรรจุผู้เคยเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญกลับเข้ารับราชการ
เรียน (เวียน กระทรวง กรม และจังหวัด)
สิงทีส่งมาด้วย
1. แบบขอกลับเข้ารับราชการและแบบหนังสือรับรองประวัติการรับราชการทหารกรณีผู้ถูกสังให้ออกจากราชการเพื่อไปรับราชการทหาร
2. แบบขอกลับเข้ารับราชการและแบบหนังสือรับรองประวัติการทำงานกรณีผู้ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ไปปฏิบัติงานใด ๆ
3. แบบขอกลับเข้ารับราชการกรณีผู้ทีออกจากราชการไปทีมิใช่เป็นการออกจากราชการในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าทีราชการ
ด้วยพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ. 2551 มาตรา 63 วรรคสี บัญญัติให้ การบรรจุข้าราชการพลเรือนสามัญทีได้ออกจากราชการไปเนื่องจากถูกสังให้ออกจากราชการเพื่อไปรับราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหารหรือได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ไปปฏิบัติงานใดๆซึงให้นับเวลาระหว่างนั้นสำหรับการคำนวณบำเหน็จบำนาญเหมือนเต็มเวลาราชการ หรือออกจากราชการไปทีมิใช่เป็นการออกจากราชการในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าทีราชการกลับเข้ารับราชการในกระทรวงหรือกรม ตลอดจนจะสั่งบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทใด สายงานใด ระดับใด และให้ได้รับเงินเดือนเท่าใด ให้กระทำได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที ก.พ. กำหนด
เพื่ออนุวัตให้เป็นไปตามมาตรา 63 วรรคสี แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ก.พ. จึงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ออกจากราชการในกรณีต่าง ๆ กลับเข้ารับราชการในตำแหน่งประเภท สายงาน ระดับ และให้ได้รับเงินเดือนไว้ดังต่อไปนี้
1. กรณีบรรจุผู้ไปรับราชการทหารกลับเข้ารับราชการ
1.1 การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภท สายงาน และระดับ
(1) ให้บรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทเดิม ระดับเดิม สายงานเดิม หรือต่างสายงานทีผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง
(2) ให้ส่วนราชการต้นสังกัดเดิมสงวนตำแหน่งประเภทเดิมระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานทีผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งไว้สำหรับบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการ
(3) ผู้ขอกลับเข้ารับราชการ จะต้องยืนคำขอพร้อมหนังสือรับรองประวัติการรับราชการทหารตามสิงทีส่งมาด้วย 1 ภายใน 180 วันนับตังแต่วันพ้นจากราชการทหาร
(4) ให้ส่วนราชการต้นสังกัดเดิมตรวจสอบเอกสารและประวัติการรับราชการทหารตาม (3) หากเห็นว่าเป็นเอกสารทีถูกต้อง และผู้นั้นพ้นจากราชการทหารโดยมิได้กระทำการใดๆในระหว่าง รับราชการทหารอันเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง โดยผู้นั้นต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้ามหรือได้รับยกเว้นกรณีทีมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 36 และไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงคำสั่งให้ออกจากราชการตามมาตรา 111 วรรคสอง เป็นออกจากราชการตามมาตราอื่น ก็ให้ผู้บังคับบัญชาซึงมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 สั่งบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทีสงวนไว้ตาม (2)
1.2 การให้ได้รับเงินเดือน
(1) กรณีผู้บรรจุกลับจากรับราชการทหารมีเวลารับราชการทหารตังแต่๖ เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 1 ปี ให้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าเดิมได้ไม่เกินร้อยละ 3 ของฐานเงินเดือนทีข้าราชการผู้นั้นได้รับอยู่ ก่อนออกจากราชการ ถ้ายังมีเศษของเวลาทีเหลือจาก 6 เดือนทีไปรับราชการทหาร เมือนำเศษของเวลาทีเหลือไปรวมกับเวลาในการปฏิบัติราชการของครึงปีทีแล้วมาก่อนออกจากราชการไปรับราชการทหารแล้ว มีเวลาปฏิบัติราชการรวมกันไม่น้อยกว่า 4 เดือน ก็ให้ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นได้อีกไม่เกินร้อยละ 3 โดยคำนวณจากฐานเงินเดือนทีได้ปรับเพิ่มข้างต้นแล้ว
(2) กรณีผู้บรรจุกลับจากรับราชการทหารมีเวลารับราชการทหารตังแต่ 1 ปีขึ้นไป สำหรับ 6 เดือนแรก ให้รับเงินเดือนสูงกว่าเดิมได้ไม่เกินร้อยละ 3 ของฐานเงินเดือนทีข้าราชการผู้นั้นได้รับ ก่อนออกจากราชการ และในรอบ 6 เดือนต่อ ๆ ไป ให้รับเงินเดือนเพิ่มได้อีกรอบละไม่เกินร้อยละ 3 โดยคำนวณจากฐานเงินเดือนทีข้าราชการผู้นั้นได้รับเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบ ถ้ายังมีเศษของเวลาทีเหลือจาก 6 เดือน ทีไปรับราชการทหาร เมือนำเศษของเวลาทีเหลือไปรวมกับเวลาในการปฏิบัติราชการของครึงปีทีแล้วมาก่อนออกจากราชการไปรับราชการทหารแล้ว มีเวลาปฏิบัติราชการรวมกันไม่น้อยกว่า 4 เดือน ก็ให้ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นได้อีกไม่เกินร้อยละ 3 โดยคำนวณจากฐานเงินเดือนทีได้ปรับเพิ่มข้างต้นแล้ว
(3) กรณีออกจากราชการไปรับราชการทหารในช่วงเวลาก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2552 ให้คิดคำนวณเงินเดือนทีจะให้ได้รับเมือบรรจุกลับเข้ารับราชการ โดยให้ได้รับเงินเดือนสูงกว่าทีได้รับอยู่เดิมก่อนออกจากราชการไปรับราชการทหารไม่เกินครึงขันทุกรอบ๖เดือนตามบัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการพลเรือนตามพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2538 ทีใช้บังคับอยู่ในแต่ละช่วงเวลาดังกล่าว และตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ด่วนทีสุด ที นร 1012/ว 5 ลงวันที 27 กุมภาพันธ์ 2552 แล้วแต่กรณี
(4) ในระหว่างทีผู้นั้นออกจากราชการไปรับราชการทหารถ้ามีการปรับบัญชีเงินเดือน ขั้นต่ำขั้นสูงและคณะรัฐมนตรีได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการปรับเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนสามัญทีได้รับอยู่เดิมเข้าสู่อัตราในบัญชีทีได้รับการปรับใหม่ในช่วงเวลาใด ก็ให้ปรับให้ผู้นั้นได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวก่อน แล้วจึงคำนวณการให้ได้รับเงินเดือนตาม (1) (2) หรือ (3) แล้วแต่กรณี
2. กรณีบรรจุผู้ไปปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรีกลับเข้ารับราชการ
2.1 การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภท สายงาน และระดับ
(1) ให้บรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทเดิม ระดับเดิม สายงานเดิม หรือต่างสายงานหรือต่างประเภททีผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามมาตรฐาน กำหนดตำแหน่ง
(2) ให้ส่วนราชการต้นสังกัดเดิมสงวนตำแหน่งประเภทเดิมระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานหรือต่างประเภททีผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามมาตรฐาน กำหนดตำแหน่งไว้สำหรับบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการ ดังนี้
(2.1) กรณีเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร
ก. ให้สงวนตำแหน่งประเภทเดิมระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานหรือตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิไว้สำหรับบรรจุผู้เคยดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง กลับเข้ารับราชการทั้งนี้ หากเป็นผู้ไม่เคยดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ มาก่อนก็ให้แต่งตั้งได้โดยไม่ต้องประเมินบุคคลและผลงาน
ข. ให้สงวนตำแหน่งประเภทเดิมระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานหรือตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชียวชาญไว้สำหรับบรรจุผู้เคยดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น กลับเข้ารับราชการ ทั้งนี้ หากเป็นผู้ไม่เคยดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชียวชาญมาก่อน ก็ให้แต่งตั้งได้โดยไม่ต้องประเมินบุคคลและผลงาน
ค. ถ้าหากในวันทีผู้นั้นยืนคำขอบรรจุกลับเข้ารับราชการ ส่วนราชการนั้นมีตำแหน่งประเภทบริหารระดับเดียวกันกับตำแหน่งทีผู้ขอบรรจุกลับเคยดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนออกจากราชการว่าง และผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ผู้บังคับบัญชาซึงมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 อาจสั่งบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งประเภทบริหารทีว่างดังกล่าวแทนตำแหน่งทีสงวนไว้ก็ได้
(2.2) กรณีเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการ
ก. ให้สงวนตำแหน่งประเภทเดิมระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานหรือตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชียวชาญไว้สำหรับบรรจุผู้เคยดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง กลับเข้ารับราชการทั้งนี้ หากเป็นผู้ไม่เคยดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชียวชาญมาก่อน ก็ให้แต่งตั้งได้ โดยไม่ต้องประเมินบุคคลและผลงาน
ข. ให้สงวนตำแหน่งประเภทเดิม ระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานหรือตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการพิเศษไว้ สำหรับบรรจุผู้เคยดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับต้น กลับเข้ารับราชการ ทั้งนี้ หากเป็นผู้ไม่เคยดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการพิเศษมาก่อน ก็ให้แต่งตั้งได้โดยไม่ต้องประเมินบุคคลและผลงาน
ค. ถ้าหากในวันทีผู้นั้นยืนคำขอบรรจุกลับเข้ารับราชการส่วนราชการนั้นมีตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับเดียวกันกับตำแหน่งทีผู้ขอบรรจุกลับเคยดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนออกจากราชการว่าง และผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งผู้บังคับบัญชาซึงมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 อาจสั่งบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งประเภทอำนวยการทีว่างดังกล่าวแทนตำแหน่งทีสงวนไว้ก็ได้
(2.3) กรณีเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการหรือตำแหน่งประเภททั่วไป ให้สงวนตำแหน่งประเภทเดิมระดับเดิมสายงานเดิมหรือต่างสายงานทีผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะ สำหรับตำแหน่งตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งไว้สำหรับบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการ
(3) ต้องบรรจุกลับเข้ารับราชการภายในกำหนดเวลาทีคณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ไม่เกินสีปีนับแต่วันไปปฏิบัติงานดังกล่าว
(4) ผู้ขอกลับเข้ารับราชการจะต้องยืนคำขอพร้อมหนังสือรับรองประวัติการทำงานตามสิงทีส่งมาด้วย๒ก่อนวันสินสุดกำหนดเวลาทีคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ไปปฏิบัติงานใดๆไม่น้อยกว่า 30 วัน
(5) ให้ส่วนราชการต้นสังกัดเดิมตรวจสอบเอกสารและประวัติการปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรีตาม (4) หากเห็นว่าเป็นเอกสารทีถูกต้อง และผู้นั้นพ้นจากการปฏิบัติงานดังกล่าว โดยมิได้กระทำการใด ๆ ในระหว่างนั้นอันเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว อย่างร้ายแรงโดยผู้นั้นต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้ามหรือได้รับยกเว้นกรณีทีมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 36 ก็ให้ผู้บังคับบัญชาซึงมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 สั่งบรรจุผู้นั้นกลับเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทีสงวนไว้ตาม (2)
2.2 การให้ได้รับเงินเดือน
ให้ได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการทำนองเดียวกับการบรรจุผู้ออกจากราชการไปรับราชการทหารกลับเข้ารับราชการ แต่ทั้งนี้ ต้องไม่สูงกว่าเงินเดือนขั้นสูงของตำแหน่งประเภท สายงาน และระดับทีบรรจุกลับ
3. กรณีบรรจุผู้ออกจากราชการไปทีมิใช่เป็นการออกจากราชการในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าทีราชการกลับเข้ารับราชการ
3.1 การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภท สายงาน และระดับ
(1) ให้บรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทเดิม ระดับไม่สูงกว่าเดิม สายงานเดิม หรือต่างสายงานทีผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง (2) ผู้ขอกลับเข้ารับราชการจะต้องยืนคำขอพร้อมประวัติการรับราชการและประวัติการทำงานทุกแห่ง ตามสิงทีส่งมาด้วย 3
(3) ให้ส่วนราชการตรวจสอบเอกสารประวัติการรับราชการและประวัติการทำงานและสอบถามไปยังส่วนราชการหรือหน่วยงานทีเกี่ยวข้องเพื่อให้ได้รายละเอียดข้อเท็จจริงมากทีสุดมาประกอบการพิจารณา โดยผู้นั้นต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้ามหรือได้รับยกเว้นกรณีทีมีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 36
(4) ในการพิจารณาการบรรจุกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งประเภทบริหาร ประเภทอำนวยการ ประเภทวิชาการ และประเภททั่วไป ให้ผู้บังคับบัญชาซึงมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 พิจารณาจากความรู้ ความสามารถผลการปฏิบัติงานทีผ่านมาเหตุผลความจำเป็นและประโยชน์ของทางราชการ
สำหรับการบรรจุกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการ ระดับชำนาญการพิเศษ ระดับเชียวชาญ และระดับทรงคุณวุฒิ หรือในตำแหน่งประเภททั่วไประดับชำนาญงาน ระดับอาวุโสและระดับทักษะพิเศษ ซึงเป็นตำแหน่งต่างสายงานและไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มตำแหน่งเดียวกันกับตำแหน่งทีเคยดำรงอยู่ก่อนออกจากราชการให้ อ.ก.พ. กรม หรือคณะกรรมการที อ.ก.พ. กรมแต่งตั้งเป็นผู้พิจารณาสำหรับการบรรจุกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ และระดับชำนาญการพิเศษ หรือตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับชำนาญงาน และระดับอาวุโส และให้ อ.ก.พ. กระทรวงหรือคณะกรรมการที อ.ก.พ.กระทรวงแต่งตั้งเป็นผู้พิจารณาสำหรับการบรรจุกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชียวชาญ และระดับทรงคุณวุฒิ หรือตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับทักษะพิเศษ
ส่วนการบรรจุกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการหรือตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ส่วนราชการนั้นจะต้องไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ตามมาตรา 53 หรือบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก ตามมาตรา 55 ในตำแหน่งในสายงานทีจะบรรจุกลับรอการบรรจุอยู่ เว้นแต่ ผู้ทีจะบรรจุกลับเข้ารับราชการเป็นผู้ทีออกจากราชการเพื่อไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ หรือดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือตำแหน่งอื่นที ก.พ. กำหนด หรือเพื่อสมัครรับเลือกตังเป็นสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือลาออกจากราชการเพื่อติดตามคู่สมรสทีไปปฏิบัติหน้าทีราชการ หรือไปปฏิบัติงานในต่างประเทศตามระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ หรือเป็นผู้ทีออกจากราชการไปเนื่องจากทางราชการเลิกหรือยุบหน่วยงานหรือตำแหน่งในกรณีทีผู้บังคับบัญชาซึงมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 พิจารณาเห็นว่ามีเหตุผลและความจำเป็นเป็นพิเศษสมควรทีจะบรรจุผู้สมัครกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งทีมีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้หรือบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก ให้เสนอ อ.ก.พ. กระทรวงพิจารณาเป็นราย ๆ ไป
3.2 การให้ได้รับเงินเดือน
ให้ผู้ได้รับการบรรจุกลับได้รับเงินเดือนไม่สูงกว่าทีได้รับอยู่เดิมก่อนออกจากราชการ แต่ทั้งนี้ต้องไม่สูงกว่าเงินเดือนขั้นสูงของตำแหน่งประเภทสายงานและระดับทีบรรจุกลับหากในระหว่างทีผู้นั้น ออกจากราชการไปถ้ามีการปรับบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงและคณะรัฐมนตรีได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการปรับเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนสามัญทีได้รับอยู่เดิมเข้าสู่อัตราในบัญชีทีได้รับการปรับใหม่ในช่วงเวลาใด ก็ให้ปรับให้ผู้นั้นได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวด้วย
4. กรณีอื่นนอกจากทีกำหนดไว้ในหนังสือสำนักงาน ก.พ. ฉบับนี้ ให้เสนอ ก.พ. พิจารณา เป็นราย ๆ ไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ ได้แจ้งให้กรมและจังหวัดทราบด้วยแล้ว
ขอแสดงความนับถือ
(นางเบญจวรรณ สร่างนิทร)
เลขาธิการ ก.พ.
สำนักตรวจสอบและประเมินผลกำลังคน
โทร. 0 2281 0977
โทรสาร 0 2281 7316
ว 11/2553 เรือง การบรรจุผู้เคยเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญกลับเข้ารับราชการ